วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2551

พลาสติกในชีวิตประจำวัน (4) : โพลีเอทิลีน


โพลีเอทิลีน (Polyethylene, PE) เป็นพลาสติกที่ผลิตขึ้นมาจากสารตั้งต้นเอทิลีน (ผลผลิตจากปิโตรเลียม) มี 2 ชนิดคือ ชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) และชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDPE) ชนิดความหนาแน่นสูงจะหนาแน่นกว่าและแข็งกว่าชนิดหนาแน่นต่ำ โพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1942 และถูกนำมาใช้ในกิจการในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้เคลือบสายเคเบิลใต้น้ำและต่อมาใช้เป็นวัสดุฉนวนสำหรับเครื่องมืออุปกรณ์ทางทหาร
ที่สำคัญเช่น เรดาร์


ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโพลีเอทิลีนมีอะไรบ้าง
ชนิดความหนาแน่นต่ำ : ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกชนิดนี้มีมากมาย ที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีคือ ถุงพลาสติกที่เรียกว่า ถุงก๊อบแก๊บ ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร แผ่นเคลือบบอร์ดกระดาษ เคลือบสายเคเบิลและของเล่นเด็ก เป็นต้น

ชนิดความหนาแน่นสูง : เนื่องจากเป็นพลาสติกที่ทนทานต่อสารทำละลายต่างๆ ทำให้มีการนำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์จำนวนมาก เช่น

o ภาชนะบรรจุต่าง ๆ เช่น ทัปเปอร์แวร์ ขวดน้ำยาซักผ้า ขวดนม ถังน้ำมันสำหรับยานพาหนะ

o โต๊ะและเก้าอี้แบบพับได้

o ถุงพลาสติก

o ภาชนะใส่สารเคมีบางชนิด

o ท่อทนสารเคมี

o ท่อที่ใช้ในระบบแลกเปลี่ยนความร้อน

o ท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ

o ท่อน้ำ


สารพิษที่ระบายออกสู่บรรยากาศในกระบวนการผลิตและรีไซเคิลโพลีเอทิลีน
สารเคมีอันตรายจำนวนมากถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตโพลีเอทิลีน ได้แก่ เบนซีน โครเมียมออกไซด์ คิวมีนไฮเปอร์ออกไซด์ เทอร์-บิวทิล โฮโดรเพอร์ออกไซด์ และเอทิลีน ซึ่งสารตั้งที่ต้นตัวสำคัญ

เบนซีน ใช้เป็นสารทำละลายในการผลิตโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ การสูดดมเบนซีนมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง และอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ และคลื่นไส้ เป็นต้น

บิวทิล โฮโดรเพอร์ออกไซด์ ใช้เป็นสารที่ทำให้โพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำชนิดสายเป็นเส้นตรงเกิดการจับตัวเป็นโพลีเมอร์ การได้รับสัมผัสสารนี้อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้นได้เช่น เกิดลักษณะไหม้ที่ผิว ไอ จาม หายในสั้น ปวดหัว คลื่นไส้ และอาเจียน และมีผลการทดลองในสัตว์ที่ชี้บ่งว่าสารนี้ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์

คิวมีนไฮโดรเพอร์ออกไซด์ ใช้ในกระบวนการจับตัวเป็นโพลีเมอร์ของโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ สารนี้จะแสดงอันตรายเฉียบพลันหากกลืนกินเข้าไป หายใจเข้าไป หรือซึมผ่านผิวหนัง


โครเมียม (6) ออกไซด์ ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการจับตัวเป็นโพลีเมอร์ของโพลีเอทิลีนทั้งชนิด
ความหนาแน่นสูงและต่ำ สารนี้มีผลการทดลองในสัตว์ที่บ่งบอกว่าเกี่ยวข้องกับการก่อมะเร็งและก่อการกลายพันธุ์ การทำงานกับสารนี้เป็นเวลานานส่งผลต่อตับและระบบประสาทอย่างรุนแรง


ผลกระทบต่อสุขภาพของโพลีเอทิลีนของผู้บริโภค
ผู้ที่ใช้ถุงพลาสติกที่เป็นสีต่าง ๆ อาจได้รับอันตรายจากเม็ดสีที่เติมเข้าไป ซึ่งมีส่วนผสมของตะกั่วและแคดเมียม สารทั้งสองตัวนี้สามารถแพร่ออกมาจากพลาสติกได้ และหากสัมผัสกับสารเหล่านี้อาจเกิดอันตรายได้ ในกรณีตะกั่วอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง หมดสติ ทางเดินหายใจขัดข้อง หัวใจวาย หรืออาจตายได้ ส่วนแคดเมียมมีผลทำลายเซลและเนื้อเยื่อของไตทำให้เกิดภาวะไตอักเสบรุนแรง


ข้อควรระวัง
o การเผาโพลีเอทิลีนก่อให้เกิดสารอะซิทัลดีไฮด์และฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งทั้งสองสารนี้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสารก่อมะเร็ง


ถิติที่น่าสนใจ
o นกทะเลและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต้องตายจากการกินถุงพลาสติกปีละประมาณ 1 พันล้านตัว

I AM THE PROBLEM
I AM THE SOLUTION



เอกสารอ้างอิง :

Chintan Environmental Research and Action Group, 2007. Plastic: A treat to mankind, National Book Trust, India

http://plastics.dow.com/plastics/ap/prod/polyethylene/ldpe.htm

http://www.sigmaaldrich.com/cgi-bin/hsrun/Suite7/Suite/HAHTpage/Suite.HsSigmaAdvancedSearch.formAction

http://environmental-activism.suite101.com/article.cfm/say_no_to_plastic_bags

ไม่มีความคิดเห็น: